โรคพาร์กินสัน เป็นโรคความเสื่อมของระบบประสาทที่พบได้บ่อยในผู้สูงอายุเป็นอันดับ 2 รองจากโรคอัลไซเมอร์ สามารถเกิดขึ้นทั้งในผู้ชายและผู้หญิงในอัตราส่วนที่ใกล้เคียงกัน อายุเฉลี่ยของผู้ป่วยโรคพาร์กินสันจะอยู่ประมาณ 55-60 ปี และผู้ป่วยโดยส่วนมากจะมีอายุมากกว่า 50 ปี อย่างไรก็ตาม โรคพาร์กินสันสามารถเกิดในคนอายุน้อยได้เช่นกัน เช่น ผู้ป่วยบางรายมีอาการก่อนอายุ 40 ปี เป็นต้น สถิติผู้ป่วยโรคพาร์กินสันอยู่ที่ประมาณร้อยละ 1 ในประชากรที่มีอายุมากกว่า 65 ปี โดยความชุกของโรคพาร์กินสันในผู้ป่วยจะสูงขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น
โรคพาร์กินสัน คือ ภาวะการเคลื่อนไหวผิดปกติที่เกิดจากระบบประสาท ซึ่งมีสาเหตุจากการเสื่อมของเซลล์สมอง โดยอาการจะค่อยๆ รุนแรงขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป
โรคพาร์กินสันเกิดจากการเสื่อมของสมองในส่วนเล็กๆ ที่เรียกว่า ซับสแตนเชียไนกรา (Substantia Nigra) เมื่อเซลล์สมองในส่วนซับสแตนเชียไนกราค่อยๆ เสื่อมและตายลง จำนวนสารโดปามีนในสมองก็จะค่อย ๆ ลดลงจนไม่เพียงพอต่อการควบคุมการเคลื่อนไหว
โดปามีน (Dopamine) คือสารสื่อประสาทที่ทำให้เซลล์สมองส่วนที่ควบคุมการเคลื่อนไหวสามารถสื่อสารกับกล้ามเนื้อได้ ดังนั้นระดับสารโดปามีนที่ลดน้อยลงจึงส่งผลให้เกิดอาการต่างๆ ของโรคพาร์กินสัน
เมื่อปริมาณโดปามีนลดลงอย่างต่อเนื่อง อาการของโรคพาร์กินสันก็จะรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ผู้ที่เป็นโรคพาร์กินสันจะทำกิจวัตรประจำวันลำบากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป เช่น ลุกจากเก้าอี้ยาก หรือเดินไปที่อีกฝั่งของห้องไม่ไหว ผู้ป่วยบางรายอาจต้องใช้รถเข็น หรือนอนติดเตียงเมื่ออาการรุนแรงขึ้น
โรคพาร์กินสันเป็นโรคความเสื่อมของระบบประสาทที่เกิดขึ้นอย่างช้าๆ โดยสามารถแบ่งได้คร่าวๆ ดังนี้
1. โรคพาร์กินสันระยะแรก (Early Stage) ส่วนใหญ่เป็นโรคพาร์กินสันอยู่ในช่วง 3-5 ปีแรกหลังจากได้รับการวินิจฉัย อาการของผู้ป่วยระยะนี้ส่วนใหญ่จะมีอาการน้อย และมีการตอบสนองต่อการรักษาด้วยยาที่ดี ไม่ว่าจะเป็นยาเลโวโดปา หรือ ยาเสริมโดปามีน
2. โรคพาร์กินสันระยะกลาง (Intermediate Stage) ส่วนใหญ่เป็นโรคพาร์กินสันอยู่ในช่วง 5-10 ปี หลังจากได้รับการวินิจฉัย ปัญหาหลักของผู้ป่วยในช่วงนี้ส่วนมากเกี่ยวข้องกับ การตอบสนองต่อยาที่ไม่สม่ำเสมอ (Motor Fluctuation) เช่น อาการยุกยิก เป็นต้น นอกจากนี้ ผู้ป่วยอาจเริ่มมีปัญหาเกี่ยวกับการเดิน เช่น เดินติด ทรงตัวไม่ดี ผู้ป่วยในระยะนี้เริ่มมีปัญหาในการทำงานและมีคุณภาพชีวิตที่ถดถอย เนื่องจากอาการดังกล่าว
3. โรคพาร์กินสันระยะปลาย (Advanced Stage) ส่วนใหญ่เป็นโรคพาร์กินสันมากกว่า 10 ปีหลังจากได้รับการวินิจฉัย ในระยะนี้ผู้ป่วยมีปัญหาของการตอบสนองต่อยาที่ไม่สม่ำเสมอค่อนข้างรุนแรง นอกจากนี้อาการที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวจะเด่นชัดมากขึ้นเช่น อาการหลงลืม ปัญหาควบคุมการขับถ่าย