ทางเลือกการรักษาที่ตอบโจทย์ทั้งปัจจุบันและอนาคต

เครื่องตรวจคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) ช่วยนำทางและยืนยันตำแหน่งการวางขั้วไฟฟ้าของดีบีเอสได้อย่างแม่นยำ หลังการผ่าตัดดีบีเอสผู้ป่วยสามารถตรวจร่างกายด้วยเครื่อง MRI แบบได้ทั้งร่ายกายอย่างปลอดภัยภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด

MRI คืออะไร?

MRI ย่อมาจาก Magnetic Resonance Imaging หรือ อุปกรณ์สร้างภาพด้วย
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เป็นวิธีตรวจดูอวัยวะภายในและระบบโครงกระดูกแบบไม่รุกล้ำร่างกาย

MRI มักใช้เพื่อวินิจฉัยสาเหตุของอาการต่างๆ ที่พบในหัวใจ สมอง และ
กระดูกสันหลัง

เครื่องจะสร้างภาพถ่ายความคมชัดสูง มีประโยชน์สำหรับการวินิจฉัยอาการผิดปกติ
หลากหลายประเภท

ตรวจคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) ปลอดภัยกว่าการตรวจด้วยเครื่องเอกซเรย์
คอมพิวเตอร์ (CT-Scan) เพิ่มความแม่นยำในการวินิจฉัยโรคให้แก่แพทย์ และเป็น
กระบวนการวินิจฉัยด้วยภาพที่นิยมใช้ตรวจหาภาวะผิดปกติต่าง ๆ ในหลายโรค
เพื่อใช้สร้างหลักปฏิบัติทางการแพทย์และแนวทางรักษาโรค

*อิงจากคำแนะนำของสมาคมการแพทย์ประจำชาติต่าง ๆ ในยุโรป การวิเคราะห์อิงจากโรคต่าง ๆที่เกิดควบคู่กับพาร์กินสันซึ่งควรทำ MRI ในภูมิภาคยุโรป สัดส่วนเปอร์เซ็นต์คำนวณจากตัวเลขจริงของประชากรที่เป็นโรคพาร์กินสันซึ่งสามารถทำ DBS ได้ โดยนำมาจากฐานข้อมูลการประกันสุขภาพเชิงพาณิชย์ในสหรัฐอเมริกา (Conroy และคณะ, นำเสนอในงานสัมมนา ECR ประจำปี 2015 ณ กรุงเวียนนา)

ดีบีเอสระบบแรกที่สามารถเข้าเครื่อง MRI ได้ทั้งร่างกายภายใต้เงื่อนไขเฉพาะ

อุปกรณ์ดีบีเอสของเราสามารถใช้กับเครื่อง MRI ได้ทั้งร่างกายเป็นระบบแรกของโลก มอบความอุ่นใจให้ผู้ป่วยโรคพาร์กินสันที่มีอุปกรณ์ดีบีเอสอยู่ในร่างกายว่าจะสามารถเข้าเครื่อง MRI ได้อย่างปลอดภัย และสามารถให้ MRI เป็นอีกตัวเลือกของพวกเขาได้